19 กันยายน 2567 – ที่ห้องแถลงข่าวสภาผู้แทนราษฎร นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดแคมเปญรณรงค์รับลงชื่อคัดค้านนโยบายพลังงานของรัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เร่งสอบสวนกรณีดังกล่าว หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567
นายวัชระได้หยิบยกประเด็นสำคัญ 3 ข้อที่เป็นที่มาของการคัดค้าน ดังนี้
1. การยกเลิกแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ ขนาด 1,400 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โรง ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และการย้ายโครงการไปยังภาคตะวันตก (ราชบุรี) โดยให้บริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายวัชระชี้แจงว่า การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ กฟผ. มีกำลังการผลิตเหลือเพียง 17% ของทั้งประเทศ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 56 ที่บัญญัติไว้ว่า ต้องมีกำลังการผลิตไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้ามีราคาแพงเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคตและทำให้สินค้าต่างๆมีราคาแพงมากขึ้นด้วย
2. ปัญหาค่าไฟฟ้าที่มีราคาสูงขึ้น โดยนายวัชระระบุว่าเป็นราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วประเทศ
3. ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่งดำเนินการสอบสวนทั้งสองกรณีข้างต้น เพื่อตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ และเพื่อคลายข้อสงสัยของประชาชน
นายวัชระ ยังได้ตั้งคำถามว่า หากปล่อยให้มีการย้ายโรงไฟฟ้าและให้เอกชนดำเนินการ "จะไม่เป็นการปล้นประชาชนหรืออย่างไร" พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าเสียงของประชาชนที่ร่วมลงชื่อจะถูกนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
ทั้งนี้ นายวัชระ ได้เชิญชวนประชาชนที่สนใจร่วมลงชื่อผ่านลิงก์ออนไลน์ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อแสดงจุดยืนและสนับสนุนการคัดค้านในประเด็นดังกล่าว โดยย้ำว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนจะมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายพลังงานของประเทศ และนำไปสู่ความมั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืนด้านพลังงานในอนาคต
🖋️ ลงชื่อวันนี้ เพื่ออนาคตพลังงานไทยที่ดีกว่า!
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSc8kwnQ5YahllmAhxEkzYmjw-3OD6tAB3_U73HnqpOtEn7yZQ/viewform