"นริส สิงห์วังชา" จับมือ "Highland Boxing Promotion" จัดเต็มต่อเนื่อง! ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัส ศึก DOUBLE IMPACT Muay Thai and Boxing

     นายนริส สิงห์วังชา โปรโมเตอร์ผู้มากประสบการณ์ของวงการมวยเมืองไทย เปิดใจพอใจผลงานนัดแรกของศึกดับเบิ้ล อิมแพคมวยไทย แอนด์ บ็อกซิ่ง ซึ่งเป็น สปอร์ตเอนเตอร์เทน เต็มรูปแบบ มีทั้งมวยและการแสดงควบคู่ในรายการเดียว ซึ่งทางผู้บริหารเวทีมวยลุมพินีพอใจผลงานนัดที่ผ่านมาพร้อมให้ทำต่อเนื่องอีก 2 นัด ซึ่งทาง โปรโมเตอร์ "นริส สิงห์วังชา" วางแผนดึงทัวร์ต่างประเทศเข้ามาชมการแข่งขัน พร้อมกระนั้นยังแสดงความเป็นห่วงวงการมวยสากลของไทย ที่ขาดการสนับสนุนจนทำให้ตกต่ำลงเรื่อยๆ

     หลังจากที่ศึกดับเบิ้ล อิมแพค มวยไทย แอนด์ บ๊อกซิ่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เวทีมวยลุมพินี ซึ่งเป็นการจัดของ เสี่ยนริส สิงห์วังชา โปรโมเตอร์ผู้มากประสบการณ์ร่วมกับไฮแลนด์ บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น โดยนายศุภณัฐ จันทร์แรม และ มร.บริโก้ ซานติก โปรโมเตอร์ชาวฟิลิปปินส์ร่วมกันจัดการแข่งขันซึ่งเป็นรูปแบบของมวยสากล , มวยไทย และ การแสดงโชว์ ในรายการเดียวกันซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนในวงการมวยเมืองไทย

      นายนริส สิงห์วังชา ได้เผยว่าจากผลงานที่ผ่านมาตนพอใจมาก เพราะการที่จะจัดรายการมวยแล้วขายลิขสิทธิ์ไปทั่วโลกแบบรายการอื่นที่เน้นมวยตื่นเต้นสะกดคนดูนาน 3-4 ชั่วโมง มันทำให้เกิดความเครียด ตนเห็นว่าควรที่จะเอาความบันเทิงเข้ามาสลับบ้างซึ่งเมื่อฉีกแนวทำแบบนี้ดูแล้วสร้างความพึงพอใจให้กับแฟนมวยและผู้บริหารของเวทีมวยลุมพินี

     โปรโมเตอร์นริส ยังเผยอีกว่า ทางผู้บริหารของเวทีมวยลุมพินีพอใจกับผลงานที่ผ่านมาโดยให้ตนจัดอีกในช่วงเดือนตุลาคม และ ธันวาคม ซึ่งตนก็พร้อมที่จะตอบสนองนโยบายในรูปแบบสปอร์ต เอนเตอร์เทน เหมือนเดิมซึ่งจะมีการโชว์ระดับคุณภาพและคู่มวยที่สนุกขึ้นกว่าเดิม ถ้าหากได้ทัวร์ต่างประเทศมาร่วมชมรายการนี้ด้วยก็จะทำให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองจะได้เจ็บตัวน้อยที่สุด 

      นอกจากนั้น นายนริศ สิงห์วังชา ยังได้พูดถึงวงการมวยสากลเมืองไทยในช่วงนี้ด้วยว่า ทุกวันนี้แชมป์โลกของไทยเหลือน้อยการจัดมวยโลกก็น้อยไปด้วยเนื่องจากไม่มีสปอนเซอร์สนับสนุน จะเหลือก็ของ เสี่ยฮุย และเสี่ยเน้า ที่ยังจัดอยู่ ส่วนหนึ่งอาจมาจากแชมป์โลกเหลือน้อยทำให้กระแสของแฟนมวยติดตามน้อยลงไปด้วย และรูปแบบในการจัดก็แตกต่างจากเดิม ทั้งที่เทียบฝีมือแล้วนักชกไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกแต่เพียงขาดน้ำเลี้ยงเท่านั้น จึงอยากฝากภาครัฐบาลและการกีฬาแห่งประเทศไทยให้มาเหลียวแลวงการมวยโลกของไทยบ้าง