22 มิถุนายน 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเมื่อวานนี้ได้ยื่นหนังสือส่งถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ผ่านงานสารบรรณ เลขรับที่ 21559 เวลา 16.30 น.นาทีสุดท้ายของเวลาราชการ เรื่องขอให้ตั้งคณะไต่สวนกรณียุบโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติที่ จ.สุราษฎร์ธานี ส่อทุจริตและประพฤติมิชอบหรือไม่ และกรณีทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เหลือกำลังการผลิต 17% ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.56 ส่อทุจริตหรือประพฤติมิชอบหรือไม่ และค่ากระแสไฟฟ้ามีราคาสูงประชาชนเดือดร้อนทุกครัวเรือนทั้งประเทศเป็นการส่อทุจริตหรือประพฤติมิชอบหรือไม่
นายวัชระ กล่าวว่าบัดนี้ประชาชนทุกครัวเรือนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแต่ละเดือนแพงเกินความเป็นจริงเดือดร้อนไปทั่วประเทศแล้ว ย่อมขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.56 สองประการคือ กำลังการผลิตไฟฟ้าของรัฐต่ำกว่าร้อยละ 51 และอัตราค่าไฟฟ้าแพงเกินกว่าที่ประชาชนจะแบกรับภาระได้
ดังนั้น จึงขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือกระทำการส่อทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์กับตนเองหรือผู้อื่นหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกระทำที่ส่อว่าขัดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 56 หรือไม่ จากกรณีการยุบโรงไฟฟ้าพลังแก๊สธรรมชาติจากที่จะสร้างบริเวณเขาหัวควาย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ไปจังหวัดอื่นในภาคกลางโดยไม่ชอบธรรมและไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งต่อประชาชนภาคใต้จำนวน 10 ล้านคน โดยขอกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกับพวก ดังนี้
1. นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน
2. นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน
3. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกับพวก
นายวัชระ กล่าวอีกว่าการยุบแผนการสร้างโรงไฟฟ้า 1,400 เมกะวัตต์นี้ นำเสนอโดยนายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้กระทรวงพลังงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโดยตรงและกรณีอัตราค่าไฟฟ้ามีราคาแพงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย จึงขอกล่าวหา นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กับพวกและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานชุดนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ กับพวกว่าผิดกฎหมายดังกล่าวข้างต้นหรือไม่
อนึ่งขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการกันข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ให้การเป็นประโยชน์ไว้เป็นพยานด้วย
นายวัชระ กล่าวในที่สุดว่า เคารพนายพีระพันธุ์มากตั้งแต่สมัยอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่จำเป็นต้องไปยื่นปปช.เพราะเป็นเรื่องของประเทศชาติ ประชาชนเดือดร้อนจริง ๆ ถ้าท่านสั่งการให้ กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าที่สุราษฎร์ธานีเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของภาคใต้ตามแผนเดิม ก็จะไปถอนเรื่องร้องเรียนที่ปปช.ทันที แต่เรื่องค่าไฟฟ้าแพง ปปช.ต้องเร่งไต่สวนเพราะบ้านของปปช.และประชาชนทุกหลังก็จ่ายค่าไฟฟ้าแพงอย่างผิดสังเกตและมีนัยยะสำคัญ