About Me

header ads

วัชระ ยื่นสอบ เรืองไกร รับรถ

 



วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567

เวลา 11.00 น.

ที่ห้องแถลงข่าวสภาผู้แทนราษฎร

นายวัชระ  เพชรทอง อดีตสส.ปชป.ยื่นหนังสือกับผู้แทนสำนักประธานรัฐสภา

ให้สอบจริยธรรมร้ายแรงนายเรืองไกร  ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการงบประมาณ

กรณีรับรถเบนซ์ 2 คันในขณะเป็นโฆษกกรรมาธิการงบประมาณและเป็นเจ้าพนักงาน

ว่าผิดหรือไม่

และกรณีรับแคชเชียร์เช็คระบุชื่อนายเรืองไกร เป็นเงิน 25 ล้านบาทว่าผิดหรือไม่



“ผมเป็นประชาชน และเป็นผู้เสียภาษี จึงอยากให้มีความโปร่งใส ต้องสอบว่า ได้รับเช็คมาโดยถูกต้องหรือไม่ รถที่ซื้อมาได้มาโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่”นายวัชระ กล่าว

นายวัชระกล่าวต่อว่า จากข้อเท็จจริง จึงมีเหตุอันสงสัยว่า นายเรืองไกรได้รับทรัพย์สินจากการเป็น กมธ. ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 3 (5) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยตนจะไปยื่นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และบอร์ด ปปง. ในเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ก.พ.นี้ เพราะการเป็น กมธ. และเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ทำให้การกระทำใดๆ หรือการรับทรัพย์ สิ่งของใดๆ ที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ต้องเป็นไปตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการทุกประการ และถ้านายเรืองไกรมีจิตสำนึก ก็ควรลาออกจาก กมธ.งบฯ

“แคชเชียร์เช็ค 25 ล้าน ท่านได้แต่ใดมา ทําชอบสิ่งใดนา วานบอก ท่านเอออวยผู้ใดไซร้ จึงได้รางวัลมหาศาล” นายวัชระ กล่าวและว่า ส่วนเหตุผลว่า ทำไมจึงมาร้องในตอนนี้นั้น เนื่องจากนายเรืองไกรได้ทำการปิดเฟซบุ๊กของตัวเอง จึงถือเป็นการปกปิดหลักฐาน เพราะนายวีระได้นำโพสต์ดังกล่าวไปโพสต์ต่อ แต่นายเรืองไกรก็ไม่ได้ฟ้องร้องแต่อย่างใด เท่ากับยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง

นายวัชระย้ำว่า ทั้ง 2 กรณีข้างต้น ต้องมีที่มาและที่ไป หากนายเรืองไกรอ้างว่า เป็นค่าจ้าง คือค่าจ้างอะไร ตนในฐานะประชาชน และผู้เสียภาษี มีสิทธิ์สงสัยในตัวและพฤติการณ์ของนายเรืองไกร เช่นเดียวกับที่นายเรืองไกรสงสัยและยื่นสอบนักการเมืองทั้งสภาฯ อยู่ในขณะนี้

เมื่อถามว่า สภาจะสามารถถอดถอนนายเรืองไกรได้หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ต้องสอบถามไปที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าเหตุใดจึงตั้งนายเรืองไกรเป็น กมธ. และการตั้งนายเรืองไกร ชอบด้วยจริยธรรมทางการเมืองหรือไม่