ประธาน WBC “มัวริซิโอ สุไลมาน” รักมวยไทย สนับสนุนการจัดมวยไทยอย่างเต็มรูปแบบ สนับสนุนการชิงแชมป์ WBC MuayThai 6 คู่ พร้อมสรรหานักมวยไทยสมัครเล่นเพื่อโกอินเตอร์แข่งขันช่วงกลางปีนี้ ที่ประเทศอิตาลี มีความยินดีร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกกินเนสบุ๊กเวิรลด์เรคคอร์ด ไหว้ครูมวยไทยครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กว่า 5,000 คน วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566
เมื่อเวลา 15.30 น วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ โรงแรมสวนสน 1 ในสวนสนประดิพัทธ์ อ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มิสเตอร์มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก WBC เป็นประธานแถลงข่าวรายการ Amazing MuayThai Festival มวยนานาชาติชิงแชมป์ WBC MuayThai 6 คู่ โดยจะแข่งขันวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 และมวยไทยสมัครเล่น วันที่ 4 - 5 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อสะสมคะแนนชิงตั๋วไปอิตาลี ช่วงกลางปีนี้
ตามที่กองทัพบก ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดงานมวยไทยเฟสติวัล (Amazing MuayThai Festival 2023) ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 4 – 6 กุมภาพันธ์ 2566 โดยวันที่ 6 ก.พ.66 มีการรำไหว้ครูมวยไทยครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กว่า 5,000 คน บันทึกกินเนสบุ๊กเวิรลด์เรคคอร์ด ซึ่งจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือสมเด็จพระเจ้าเสือ โดยงานนี้มีพื้นที่จัดงานทั้งหมด 3 แห่ง คือ อุทยานราชภักดิ์ , สวนสนประดิพัทธ์ และ พื้นที่อำเภอหัวหิน โดยสภามวยโลก มวยไทย (WBC MuayThai) โดยพล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ได้รับมอบหมายให้จัดกิจกรรมสนับสนุนในพื้นที่สวนสนประดิพัทธ์ โดยเรียนเชิญมิสเตอร์มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก (WBC) ขาวเม็กซิโก ให้เกียรติเป็นประธาน
ด้าน มัวริซิโอ กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ กองทัพบก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และทุกภาคส่วน ในการจัดเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ ซึ่ง WBC MuayThai ได้รับเกียรติให้สนับสนุนพื้นที่สวนประดิพัทธ์ ซึ่งเราได้จัดกิจกรรมสนับสนุนมวยไทยหลายอย่าง เช่น สัมมนามวยไทย อบรมผู้ตัดสินมวยไทย อบรมผู้ฝึกสอนมวยไทย การฝึกมวยไทยกับซูเปอร์สตาร์ระดับโลก การแข่งขันมวยไทย ซึ่งมีนักกีฬาและผู้สนใจมากกว่า 20 ประเทศ
นอกจากนี้ยังกล่าวว่า “Amazing MuayThai Festival จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่หัวหินนี้ ภายใต้นโยบายของกองทัพบก ที่ต้องการส่งเสริมให้มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติและเป็นมรดกทางวัฒนธรรม สามารถต่อยอดและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งตรงกับนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) โดยใช้มวยไทยเป็นสื่อกลาง จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในทุกด้าน ทั้งในด้านการเป็น Soft Power ของประเทศไทย และกีฬายอดนิยมระดับโลก รวมถึงการเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อมาท่องเที่ยวและมาเยือนถิ่นกำเนิดของกีฬามวยไทย”
สำหรับการจัดการแข่งขันวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มีมวยชิงแชมป์โลก WBC MuayThai 4 คู่ เป็นชาย 2 รุ่น และหญิง 2 รุ่นและจะมีการชกชิงเข็มขัดแชมป์รายการพิเศษ 3 เส้นคือ เส้นแรก เข็มขัด Amazing MuayThai ซึ่งเป็นเข็มขัดที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษและเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือกันระหว่าง WBC MuayThai การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย ในการที่ร่วมกันผลักดันกีฬามวยไทยให้เป็น Soft power ที่สำคัญของประเทศ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงกีฬามวยไทยอย่างมีมาตรฐาน
เข็มขัดเส้นที่สอง จะเป็นยิ่งกว่า Limited Edition กับเข็มขัดแชมป์ที่เชิดชูเกียรติตำนานปรมาจารย์มวยไทยมาอยู่ในเข็มชัด นั่นก็คือ
เข็มขัด WBC MuayThai Nai Khanom Tom คือนำเอาสิ่งที่คนมวยไทยยึดถือมาเป็นแรงบันดาลใจและเป็นความภูมิใจมาเป็น ความหมายของความภาคภูมิใจ ความสง่างาม และตำนานของมวยไทย ซึ่งเข็มขัดเส้นนี้ ใครได้ครอบครอง ก็จะถือว่าจะเป็นประวัติศาสตร์และจะตำนานของมวยไทยคนต่อไป
เส้นที่สาม เป็นเข็มขัดแชมป์ของนักมวยหญิง ซึ่งมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมกันของสิทธิสตรีในสังคม
เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักมวยหญิง จึงออกแบบเข็มขัดนี้มาเป็นการเฉพาะ ซึ่งแฝงไว้ซึ่งความหมาย ความสวยงามและเต็มไปด้วยการสร้าง Empowerment ให้กับผู้หญิงทุกคน
ส่วนการชิงแชมป์เข็มขัดอีก 4 รุ่นจะเป็นการชิงแชมป์โลกของ WBC MuayThai ซึ่งเดิมพันด้วยตำแหน่งแชมป์โลกและ Green and Gold belt อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิใจที่นักมวยทุกคนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี
ขณะที่มวยไทยสมัครเล่น จะแข่งขัน วันที่ 4 – 5 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อเก็บคะแนนสะสม เพื่อคัดตัวไปแข่งขันที่ประเทศอิตาลี กลางปี 2566 ต่อไป
ทั้งนี้ มัวริซิโอ สุไลมาน ก่อนเดินทางกลับเม็กซิโก มีกำหนดการเข้าพบ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงเข้าวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 หลังจากนั้นช่วง 16.00 – 17.00 น. จะพบปะสังสรรค์อดีตแชมป์โลกWBC ชาวไทย พร้อมแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบ ที่สำนักงานสภามวยแห่งเอเชีย (WBC Asia) ถ.พหลโยธิน ซอย 3 กรุงเทพฯ ต่อไป