About Me

header ads

กรมอนามัย ลงนาม MOU กับ Central Lab พัฒนาขีดความสามารถด้านการทดสอบ วิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ตั้งแผนระยะยาว 3 ปี


 

วันนี้ (12 กันยายน 2565) นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนยิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ร่วมลงนามกับ           นายชาคริต เทียบเธียรรัตน์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านการทดสอบและวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งส่งเสริมงานวิจัยด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม   ในการเผยแพร่ข้อมูลที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยตั้งแผนดำเนินงานระยะยาวร่วมกัน 3 ปี โดยมี นายอารยะ โรจนวณิชชากร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นสักขีพยาน







นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง          สภาพภูมิอากาศของโลก ส่งผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพ มีเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ มีแมลงศัตรูพืชเพิ่ม และทนทานต่อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชมากขึ้น ทำให้มีการใช้สารเคมีในปริมาณที่มากและหลากหลายขึ้น  เพื่อให้ได้ผลผลิตและปริมาณตามความต้องการของประชากร ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีลงสู่ห่วงโซ่อาหาร  รวมถึงแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ภายใต้ภารกิจกรมอนามัยในการดำเนินงานด้านสุขาภิบาลอาหาร การจัดการคุณภาพน้ำบริโภค การวิเคราะห์วิจัยการปนเปื้อนของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในอาหารและน้ำ การจัดทำหลักเกณฑ์มาตรฐาน   การสุขาภิบาลอาหาร และการจัดการคุณภาพน้ำบริโภคของประเทศไทย

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้ประชาชนมีอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย จึงต้องอาศัยข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ และการวิจัยที่เหมาะสม สอดคล้อง ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อบ่งบอกสถานการณ์ ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว จึงเป็นมูลเหตุที่นำมาสู่การลงนามความร่วมมือระหว่างกรมอนามัย และบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (Central Lab) อีกครั้ง ภายหลังจากที่เคยลงนามความร่วมมือ  ครั้งแรกเมื่อ 4 มีนาคม 2562 เพื่อความต่อเนื่องในการร่วมกันผลักดันกระบวนการพัฒนาขีดความสามารถ   ด้านการทดสอบและวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ รวมทั้งการวิจัยใหม่ ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการ   พัฒนางานวิชาการให้ทันต่อยุคของกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลก และมีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมถึงให้ทัดเทียมนานาประเทศ งานด้านการตรวจวิเคราะห์ ทางห้องปฏิบัติการจะเปิดเผยข้อมูลที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เพื่อสร้างความรอบรู้ในการป้องกันอันตรายจากสภาพแวดล้อม รวมไปถึงการพัฒนาด้านการวิจัยและผลิตผลงานทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามความเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพคนไทยทุกคนได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม

“ทั้งนี้ กรมอนามัย และและบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด ได้กำหนดแผนดำเนินงาน     ระยะยาวร่วมกัน 3 ปีนับจากนี้ อาทิ 1) การตรวจเฝ้าระวังคุณภาพน้ำและการวิเคราะห์วิจัยการปนเปื้อนของสารเคมี    กำจัดศัตรูพืชและสัตว์ในน้ำฝน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการใช้น้ำฝนเป็นแหล่งน้ำทางเลือกรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำดิบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 2) การเฝ้าระวังสาร THC (Tetrahydrocannabinol)และ สาร CBD (Cannabidiol) ในอาหารปรุงสำเร็จที่มีการใช้กัญชาเป็นส่วนผสม 3) การเฝ้าระวังความปลอดภัยในอาหาร Street food 4) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการยกระดับทางห้องปฏิบัติการ เช่น การทำมาตรฐาน ISO การทดสอบความชำนาญทางห้องปฏิบัติการ (Proficiency Testing) และ Technology การวิจัย จัดทำเครื่องมือและการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ และ 5) บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นหน่วยจัดอบรมหลักสูตรสุขาภิบาลอาหาร สำหรับผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารที่ได้รับการรับรองจากกรมอนามัย เป็นต้น  ถือเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการยกระดับการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่ทันยุค ทันเหตุการณ์ รวมถึงรอบรับเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุดด้าน นายชาคริต เทียบเธียร์รัตน์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยศักยภาพของเซ็นทรัลแล็บไทย ในฐานะห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรองรับความสามารถมาตรฐานระดับสากล ISO/IEC 17025 พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับกรมอนามัย ในกระบวนการพัฒนาขีดความสามารถด้านการทดสอบและวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงการวิจัยและพัฒนางานด้านวิชาการ ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 หน่วยงานได้เดินหน้าโครงการมาอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำประปา เพื่อพัฒนาระบบรับรองคุณภาพน้ำประปาดื่มได้ ระบบรับรองประปาหมู่บ้านสะอาด และพัฒนาแผนการจัดการน้ำสะอาด (WSP), โครงการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถีของประเทศไทย  (Kick off Street Food Thailand) เพื่อให้อาหารริมบาทวิถีของประเทศไทยมีความสะอาด ถูกสุขอนามัยสากล, หลักสูตรมาตรฐานสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหาร และ ผู้ประกอบการอาหาร เพื่อยกระดับมาตรฐานผู้บริการด้านอาหารในทุกระดับ รวมถึงงานด้านวิชาการ ซึ่งตลอดระยะเวลาของการทำงานที่ผ่านมา เซ็นทรัลแล็บไทย ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาขีดความสามารถการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เพื่อรอบรับกับข้อบังคับภาครัฐฯ ข้อบังคับของประเทศคู่ค้า รวมถึงความต้องการใหม่ๆของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การตรวจผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดสำคัญจากกัญชง-กัญชา เป็นต้น


ทางด้านนายอารยะ โรจนวณิชชากร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประกาศกรมอนามัย เรื่องการกำหนดหัวข้อวิชา การใช้กัญชา กัญชง ในการทำหรือประกอบ/ปรุงอาหารที่ปลอดภัย ตามประกาศกรมอนามัย ปี 2565 ในหลักสูตรการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารนั้น  ขณะนี้ทางกรมอนามัยได้เตรียมพร้อมในการทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตในการจัดฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว โดยเน้นให้ความรู้ในทุกมิติเพราะเรื่องผลิตภัณฑ์ อาหาร เครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมจากกัญชา กัญชงยังเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้องค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการเพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม