About Me

header ads

จับ นศ.ปลอมเพจ ไอจี เฟสบุ๊ค ขายของแบรนเนมส์



วันที่ 26 เม.ย. 2565  เวลา 10.00 น.

เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สอท.4 ภายใต้อำนวยการของ

พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ศุภชัย ชัยสุวรรณ ผกก.1 บก.สอท.4 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.4 ชุดจับกุม พ.ต.ท.นำพล ทองภูสวรรค์ รอง ผกก.1 , พ.ต.ต.พงศภัคพล อันท้าว สว.(สอบสวน) กก.1, พ.ต.ต.รังสรรค์ แสงรูจี สว.กก.1 ฯ , ร.ต.อ.รุ่ง รักสำรวจ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 ฯ , ร.ต.อ.อำพล ทองอร่าม สว.กก.1,จ.ส.ต.เสกสรร ปัญจะ ผบ.หมู่ กก.1ฯ

ทำการจับกุม น.ส. นิรภัฎ คำวงค์ทิน  อายุ 22 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1439900350370 บ้านเลขที่ 184 หมู่ 11 บ้านน้ำสวย-ยางคำ ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย  ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา มีนบุรี ที่ จ.378/2565 ลงวันที่ 22 เม.ย. 65

ความผิดตามหมายจับฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”

                                                                                          

สถานที่จับกุม บ้านเลขที่ 184 หมู่ 11 บ้านน้ำสวย-ยางคำ ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย  


(*) พฤติการณ์การจับกุม 

วันที่ 19 ก.พ. 65   นางสาวอรณิช บุญศิริ  อายุ 34 ปี ที่อยู่ 232/16 ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์

ผู้เสียหาย ถูกหลอกขายกระเป๋ายี่ห้อ HERMES  โดยโอนเงินให้คนร้ายจำนวน 700,000 บาทแล้ว ไม่ได้รับสินค้า และ คนร้ายได้บล๊อคช่องทางการติดต่อทั้งหมดวันที่ 21 ก.พ. 65  ได้ไปพบพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อแจ้งความร้องทุกข์มอบคดี ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย


วันที่ 2 มี.ค. 65 ผู้เสียหาย และ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ประสานมายัง พ.ต.อ. ศุภชัย ชัยสุวรรณ ผกก.1 บก.สอท.4 เพื่อให้ช่วยสนับสนุนการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด


เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.4 จึงได้เริ่มทำการสืบสวน โดยได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน จนพบว่า คนร้ายมีการโอนเงินไปยังบัญชีม้าต่างๆ ถึง 5 แถว โดยในการโอนแต่ละครั้งใช้ แอพ VPN เพื่อหลอกโลเคชั่นการโอนเงินให้ติดตามไม่ได้    แต่  ด้วยความพยายามของ ตร.ไซเบอร์  กก.1 บก.สอท.4 สืบสวนติดตามจนทราบ ว่าใช้จ่ายผ่านบัญชีผู้ต้องสงสัย และ มีการกดเงินออกจากตู้ ATM และอีกส่วนหนึ่งสืบสวนจากข้อมูลการใช้งานบัญชี Facebook ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย ได้รับข้อมูลจาก Facebook นำมาวิเคราะห์พบว่าคนร้ายมีการใช้งาน VPN เพื่อปกปิด อำพรางตำแหน่งที่อยู่ที่แท้จริงอยู่เสมอจึงได้พยายามตรวจสอบในรายละเอียดถึง ไอพีแอดเดรส ทุก ไอพี  ที่ปรากฎในประวัติการเข้าใช้งาน จากข้อมูลการเข้าใช้งานหลายร้อยไอพีพบว่า มี 3 ครั้ง ที่คนร้ายพลาด ไม่ได้เปิดใช้งาน VPN จึงสามารถสืบสวนถึง ตำแหน่งการใช้งานได้ ซึ่งจากข้อมูลไอพี สอดคล้อง กับ ข้อมูลเส้นทางการเงิน และ ข้อมูลกล้องวงจรปิด และน่าเชื่อได้ว่า คนร้ายคือ  น.ส. นิรภัฎ คำวงค์ทิน นักศึกษา จ.อุดรธานี ที่อยู่ปัจจุบัน จ.หนองคาย

วันที่  21 เม.ย. 65 จึงได้จัดส่งรายงานสืบสวน ให้ พงส.สน.คันนายาว ที่รับผิดชอบ เพื่อออกหมายจับ ผู้ที่กระทำความผิด

วันที่ 22 เม.ย. 65  พนักงานสอบสวน ขอหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ศาลอนุมัติหมายจับ ที่ จ.378/2565

วันที่ 23 เม.ย. 65 พ.ต.อ.ศุกชัย ชัยสุวรรณ ผกก.1 บก.สอท.4 จึงได้ขออนุมัติ ผบก.สอท.4 ให้ เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สอท.4 ออกเดินทางไปติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยได้แบ่งชุดปฏิบัติการออกเป็น 2 ชุด เฝ้าจุด หอพัก จังหวัดอุดรธานี และ บ้าน จังหวัดหนองคาย

วันที่ 24 เม.ย. 65  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับรายนี้  อาศัยอยู่ บ้านเลขที่ 184 หมู่ 11 

บ้านน้ำสวย-ยางคำ ต.สระใคร  อ.สระใคร จ.หนองคาย จึงขอ ศาลจังหวัดหนองคายอนุมัติหมายค้น ที่ ค. 31/2565 ลงวันที่ 24 เม.ย. 65

วันที่ 25 เม.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการตรวจค้น พบ น.ส.นิรภัฎ คำวงค์ทิน ผู้ต้องหาตามหมายจับ

อยู่บริเวณในบ้าน ฯ จึงแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ  น.ส.นิรภัฎ คำวงค์ทิน อายุ 22 ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชน 1439900350370  บ้านเลขที่ 184 หมู่ 11 บ้านน้ำสวย-ยางคำ ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย  ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ  และไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน  เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ตลอดจน  แจ้งสิทธิของผู้ถูกจับเบื้องต้นให้ทราบ ผู้ถูกจับรับทราบ  จึงได้เริ่มทำการตรวจค้น ยึดสิ่งของที่ใช้ในการกระทำผิดและ ได้มาจากการกระทำผิด หลายรายการเช่น ซิมการ์ด เครือข่าย AIS  จำนวนกว่า 100 ซิม โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค Ipad  กระเป๋า Dior,Gucci หมวก แบรนเนมส์ นาฬิกาข้อมือ บัญชีธนาคารและอื่นๆ รวม 42 รายการ รายละเอียดปรากฎตามบัญชีที่แนบ

จากการตรวจสอบรายการเดินบัญชี พบยอดเงินจากผู้เสียหายอีกมากกว่า 10 ราย ที่ถูกโกงไปแล้ว มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 3 ล้านบาท และ ตรวจสอบพบ บางส่วนที่กำลังจะถูกโกง อีกหลายสิบราย จากการตรวจสอบเงินในบัญชี ของผู้ต้องหาพบว่า เหลือ 0 บาท ทุกบัญชี  และ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าตนทำหน้าที่เป็นผู้สร้างบัญชี Facebook/IG ปลอม โพสภาพสร้างตัวตนให้น่าเชื่อถือตัดต่อภาพ เอกสารใบเสร็จต่างๆเพื่อหลอกผู้เสียหายจริงโดยอ้างว่า ได้รับคำสั่งมาจากชาวจีน ชื่อ นายกล้วย ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง สัญญาติ จีน เมื่อทำงานสำเร็จ จะต้อง โอนเงินที่โกงได้บางส่วนไปยังบัญชีม้าที่ผู้สั่งการแจ้งส่วนที่เหลือก็เป็นส่วนต่างที่ผู้ต้องหาได้รับ 

่จะได้ทำการสืบสวนขยายผล ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ทราบตามคำกล่าวอ้าง ของผู้ต้องหาต่อไป  ได้ผลเป็นประการใด จะรายงานให้ทราบต่อไป

เมื่อทำการตรวจค้นเสร็จสิ้น จึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป